เพลงหน้าพาทย์
เพลงหน้าพาทย์ หมายถึง เพลงที่ใช้บรรเลงประกอบกิริยาอาการ อารมณ์ของตัวละคร เพลงหน้าพาทย์เป็นเพลงที่มีทำนอง และจังหวะกำหนดเป็นแบบแผน รวมทั้งกำหนดโอกาสใช้ไว้อย่างแน่นอน โดยทั่วไปเพลงหน้าพาทย์จะไม่มีบทร้อง ใช้บรรเลงเป็นทำนองเท่านั้น ที่บรรจุเนื้อร้องก็มีบ้าง ที่พบได้แก่ เพลงตระนิมิต เพลงกราวนอก เป็นต้น เพลงหน้าพาทย์ส่วนมากจะมีท่ารำกำหนดไว้เฉพาะในแต่ละเพลง และเพลงหน้าพาทย์เพลงเดียวกัน การใช้ท่ารำของตัวละครไทยคือ พระ นาง ยักษ์ ลิง ก็ ย่อมจะแตกต่างกันไป
เพลงหน้าพาทย์แบ่งออกเป็น หน้าพาทย์ธรรมดา และหน้าพาทย์ชั้นสูง
๑. หน้าพาทย์ธรรมดา ใช้บรรเลงประกอบกิริยาอารมณ์ของตัวละครที่เป็นสามัญชน เป็นเพลงหน้าพาทย์ไม่บังคับความยาว การจะหยุด ลงจบ หรือเปลี่ยนเพลง ผู้บรรเลงจะต้องดูท่ารำของตัวละครเป็นหลัก เพลงหน้าพาทย์ชนิดนี้โดยมากใช้กับการแสดงลิเกหรือละคร เช่น เพลงเสมอ เพลงเชิด เพลงรัว เพลงโอด
๒. หน้าพาทย์ชั้นสูงเรียกอีกอย่างว่า "เพลงครู" ถือว่าเป็นเพลงที่ศักดิ์สิทธิ์ ใช้บรรเลงประกอบกิริยา อารมณ์ของตัวละครผู้สูงศักดิ์หรือเทพเจ้าต่างๆ เป็นเพลงหน้าพาทย์ประเภทบังคับความยาว ผู้รำจะต้องยืดทำนองและจังหวะของเพลงเป็นหลักสำคัญ จะตัดให้สั้นหรือเติมให้ยาวตามใจชอบไม่ได้ โดยมากใช้กับการแสดงโขน ละคร และใช้ในพิธีไหว้ครู ครอบครูดนตรีและนาฏศิลป์ เช่น เพลงตระนอน เพลงกระบองกัน เพลงตระบรรทมสินธุ์ เพลงบาทสกุณี เพลงองค์พระพิราพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพลงองค์พระพิราพ ถือกันว่าเป็นเพลงหน้าพาทย์ชั้นสูงสุดในบรรดาเพลงหน้าพาทย์ทั้งหลาย
เพลงหน้าพาทย์แบ่งตามหน้าที่การนำไปใช้ประกอบการแสดงของตัวละครแบ่งได้ ๗ ลักษณะ คือ
๑. เพลงหน้าพาทย์ประกอบกิริยาไปมา ได้แก่ เพลงเสมอใช้ประกอบกิริยาการเดินทางระยะใกล้ ไปช้าๆ ไม่ รีบร้อน เพลงเชิดใช้ประกอบกิริยาการเดินทางระยะไกลไปมาอย่างรีบร้อน เพลงเสมอนอกจากเพลงเสมอธรรมดาแล้ว ยังมีเพลงเสมอตามลักษณะของตัวละครและตามสัญชาติของตัวละครและตามสัญชาติของตัวละครอีก เช่น เสมอลาว เสมอมอญ เสมอพม่า เสมอมาร เสมอเถร เป็นต้น เสมอลาว เสมอมอญ ข้อสังเกตให้ดูจากเครื่องแต่งกายของผู้แสดง เพลงฉิ่งใช้ประกอบกิริยาอาการเคลื่อนไหว นวยนาดกรีดกราย เล่นสนุกสนาน ชมสวน ชมป่า เก็บดอกไม้หรือเที่ยววนเวียนอยู่ในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่ง เพลงบาทสกุณีใช้ประกอบการเคลื่อนไหวไปมามีพิธีรีตรอง ใช้เฉพาะกับตัวละครตัวพระ-นาง ที่มีศักดิ์ เพลงพระยาเดินใช้ประกอบกิริยาไปมาที่ไม่รีบร้อน สำหรับผู้สูงศักดิ์เป็นหมู่พร้อมด้วยข้าราชบริพาร เพลงรุกร้นใช้ประกอบการแสดงไปอย่างมีระเบียบ เพลงเสมอข้ามสมุทร ใช้ประกอบการนำกองทัพเดินข้ามสมุทรเท่านั้น ใช้เฉพาะตัวพระราม เพลงเหาะใช้ประกอบกิริยาไปมาทางอากาศของเทวดา นางฟ้า (ในพิธีไหว้ครูโขน-ละคร เป็นการอัญเชิญพระศวร) เพลงโคมเวียนใช้ประกอบกิริยาการเดินทางในอากาศของเทวดาและนางฟ้า
เพลงกลมใช้ประกอบการไป มาของตัวละครที่สูงศักดิ์ เช่น พระอินทร์ เจ้าเงาะ ในเรื่อง สังข์ทอง (ในพิธีไหว้ครูดขน-ละคร เป็นการอัญเชิญพระวิษณุกรรม) เพลงแผละใช้ประกอบกิริยาการไปมาของสัตว์มีปีกที่บินทางอากาศ เช่น นก ครุฑ เป็นต้น เพลงชุบใช้ประกอบกิริยาไปมาของตัวละครศักดิ์ต่ำ เช่น นางกำนัล เพลงโล้ใช้ประกอบกิริยาไปมาทางนำ
๒. เพลงหน้าพาทย์ประกอบการยกพล ยกทัพได้แก่ เพลงกราวนอกสำหรับการยกทัพของมนุษย์ ลิง เพลงกราวใน สำหรับการยกทัพของยักษ์ เพลงกราวกลางสำหรับการยกทัพของมนุษย์
๓.เพลงหน้าพาทย์ประกอบความสนุกสนานร่าเริงได้แก่ เพลงกราวรำสำหรับกิริยาเยาะเย้ย
เพลงสีนวล สำหรับแสดงความร่างเริงเบิกบานใจสำหรับสตรี เพลงช้า เพลงเร็ว สำหรับแสดงความเบิกบานใจ หรือการไปมาอย่างมีระเบียบและสวยงาม เพลงฉุยฉาย แม่ศรี สำหรับแสดงความภูมิใจในความงาม
๔. เพลงหน้าพาทย์ประกอบการแสดงอิทธิฤทธิ์หรือปฏิหารย์ได้แก่ เพลงตระนิมิตร สำหรับการแปลงกาย ชุบคนตายให้ฟื้น หรือบันดาลให้เกิดสิ่งต่างๆ เพลงตระสันนิบาต สำหรับการประชุมเพื่อกระทำพิธีสำคัญต่างๆ เพลงชำนาญ สำหรับการนิมิตหรือประสิทธิ์ประสาท เสกคาถาเป่าต่างๆ แปลงตัว สำหรับตัวพระและตัวยักษ์เท่านั้น เพลงตระบองกันสำหรับการนิมิตหรือประสิทธิ์ประสาทและใช้แปลงตัวที่เป็นพญายักษ์และนางที่เป็นยักษ์ เพลงคุกพาทย์ สำหรับการแสดงอิทธิฤทธิ์ของผู้มีฤทธิ์ หรือเหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัว(ในพิธีไหว้ครูโขน-ละคร เป็นการอัญเชิญครูยักษ์) เพลงรัวใช้ทั่วไปในการสำแดงเดช หรือแสดงปรากฎการณ์โดยฉับพลัน
๕. เพลงหน้าพาทย์ประกอบการต่อสู้และและติดตาม ได้แก่ เพลงเชิดนอก สำหรับการต่อสู้หรือการไล่ติดตามของตัวละครที่ไม่ใช่มนุษย์ เช่นหนุมานไล่จับนางสุพรรณมัจฉาหนุมานไล่จับนางเบญกาย
เพลงเชิดฉานสำหรับตัวละครที่เป็นมนุษย์ไล่ตามสัตว์ เช่น พระรามตามกวาง ย่าหรันตามนกยูง
เพลงเชิดกลองสำหรับการต่อสู้กันโดยทั่วไป เพลงเชิดฉิ่งใช้ประกอบการรำก่อนที่จะใช้อาวุธสำคัญหรือก่อนกระทำกิจสำคัญ
๖.เพลงหน้าพาทย์ประกอบการแสดงอารมณ์ทั่วไป ได้แก่ เพลงกล่อม สำหรับการขับกล่อมเพื่อการนอนหลับ เพลงโลมสำหรับการเข้าพระเข้านางการเล้าโลมด้วยความรัก เพลงโอดสำหรับการร้องไห้
เพลงทยอยสำหรับอารมณ์เสียใจ เศร้าใจขณะที่เคลื่อนที่ไปด้วย เช่น เดินพลางร้องไห้พลาง